Skip to main content

ร่ายสุภาพ



พจนานุกรม ราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายคำว่า "ร่ายสุภาพ" ไว้ว่า
น. ชื่อร่ายชนิดหนึ่ง บทหนึ่งมี ๕ วรรคขึ้นไป วรรคหนึ่งมี ๕ คำ ส่งสัมผัสท้ายวรรคหน้า และรับสัมผัสกับคำที่ ๑ ที่ ๒ หรือที่ ๓ ของวรรคถัดไปและจะต้องจบด้วยโคลง ๒ สุภาพ.

                ร่ายสุภาพ  เป็นร่ายที่นิยมกันแพร่หลายตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน  มักมีการนำร่ายสุภาพไปแต่งเป็นส่วนหนึ่งของลิลิต  เช่น  ลิลิตพระลอ  ลิลิตตะเลงพ่าย
ลักษณะบังคับของร่ายสุภาพ

๑.  แผนผัง
  



๒.  คณะและพยางค์     ร่ายสุภาพบทหนึ่งมี  ๕  วรรคขึ้นไป  แต่ละวรรคมี  ๕  คำ
จะแต่งกี่วรรคก็ได้     แต่ตอนจบต้องจบด้วยโคลงสองสุภาพ




 ๓.  สัมผัส   ร่ายสุภาพมีการส่งสัมผัสท้ายวรรค  และมีสัมผัสรับตรงคำที่  ๑ , , ๓      คำใดคำหนึ่งจนถึงตอนท้าย  พอจะจบก็ส่งสัมผัสไปยังบทต้นของโคลงสองสุภาพ  ต่อจากนั้น   ก็บังคับสัมผัสตามแบบของโคลงสอง  จึงถือว่าจบร่ายแต่ละบท  ส่วนสัมผัสในนั้นไม่บังคับ       มีทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร

๔.  คำเอกคำโท  มีบังคับคำเอกคำโทเฉพาะที่โคลงสองสุภาพตอนท้ายบทเท่านั้น๕.  คำสร้อย  ร่ายสุภาพแต่ละบท  มีคำสร้อยได้เพียง  ๒  คำ  คือ  สองคำสุดท้าย
ของโคลงสองสุภาพ
 




เครดิตรูปภาพในรูปนะคะ ขอบคุณค่ะ

Comments

Popular posts from this blog

การวิจารณ์แก่นเรื่อง (Theme) ที่ปรากฏนวนิยาย

การวิจารณ์แก่นเรื่อง (Theme) ที่ปรากฏนวนิยาย  รศ.ดร.ธัญญา  สังขพันธานนท์ รศ.ดร.ธัญญา   สังขพันธานนท์ ๑ . ความหมาย แก่นเรื่อง ( Theme ) บางครั้งเรียกว่า สารัตถะ หรือความคิดหลักของเรื่อง อุดม หนูทอง (๒๕๒๓ : ๑๑๙) ให้ความหมายว่า เป็นสาระหรือสัจจะที่ผู้ประพันธ์หยั่งเห็น เชื่อถือหรือยึดถือ และประสงค์จะสื่อไปยังผู้อ่าน ส่วน กุหลาบ มัลลิกามาส (๒๕๒๙ : ๑๐๙ – ๑๐๘) ให้ความหมายของแก่นเรื่องว่าคือทรรศนะที่ผู้แต่งแสดงให้เห็นถึงธรรมดา ธรรมชาติอย่างใดอย่างหนึ่ง (หรือหลายอย่าง) ของมนุษย์ (ชีวทัศน์) หรือทัศนะที่ผู้แต่งมีต่อโลก (โลกทัศน์) แล้วนำมาแสดงให้ประจักษ์แก่ผู้อ่านโดยใช้เนื้อเรื่องเป็นเครื่องสื่อสาร แก่นเรื่องจึงเป็นจุดมุ่งหมายอันเป็นแก่นกลางหรือเป็นแนวคิดหลักของเรื่อง หรือเป็นสารที่ผู้แต่งต้องการสื่อมายังผู้อ่าน           จากความหมายข้างต้น อาจสรุปได้ว่า แก่นเรื่องคือสาระสำคัญที่ผู้แต่งมีจุดประสงค์ต้องการสื่อมายังผู้อ่าน สาระสำคัญนั้นมักจะเกี่ยวกับความเป็นจริงของชีวิตเพื่อให้ผู้อ่านเกิดความหยั่งรู้ เข้าใจและเป็นข้อคิดเตือนใจ           แก่นเรื่อง เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในวรรณกรรม

ข้อบกพร่องในการใช้ภาษาสื่อความหมาย

ข้อบกพร่องในการใช้ภาษาสื่อความหมาย ในการใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมายทั่วไปมักพบข้อบกพร่อง สรุปได้ดังนี้ 1. เป็นฝ่ายรับที่ไม่ดี คือ ฟังและอ่านไม่เข้าใจตรงกับแหล่งเดิม 2. เป็นฝ่ายให้ที่ไม่ดี คือ พูดและเขียนบกพร่อง ไม่พยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นจนยากที่จะรับจะเข้าใจได้  3. ไม่เข้าใจและไม่สามารถใช้ภาษาเป็นเครื่องมือสื่อความหมายได้ เนื่องจากไม่รู้จักจัดลำดับความคิด และไม่รู้จักจัดความคิดให้เข้ากับภาษาที่ใช้  สาเหตุที่ทำให้การใช้ภาษาบกพร่อง            โดยทั่วไป สาเหตุที่ทำให้การใช้ภาษาบกพร่องจากทั้งทางฝ่ายให้มีดังต่อไปนี้  1. ทางฝ่ายรับ (ในด้านการอ่านและการฟังของผู้รับข่าวสาร)      1.1 ไม่รู้ความหมายเพียงพอ     1.2 ไม่รู้จักจัดคำให้ตรงกับความหมาย     1.3 ไม่เห็นความสัมพันธ์ของส่วนต่าง ๆ ในประโยค 2. ทางใฝ่ให้ (ในด้านการพูดและการเขียนของผู้ส่งสาร)     2.1 ไม่คิดให้ดีเสียก่อนที่จะพูดหรือเขียน     2.2 ไม่ให้รายละเอียดในอันที่ช่วยให้ฝ่ายรับหรือผู้อ่านและผู้ฟังได้คิดค้นหาความหมายเพื่อความเข้าใจ     2.3 ใช้คำที่ให้ความหมายไม่ดี หรือไม่ชัดเจนพอ     2.4 จัดลำดับความคิดอ